ยินดีต้อนรับสู่เว็บบล๊อก

หน่วยที่ 4

หน่วยที่ 4 จิตวิทยาการเรียนการสอน จิตวิทยาการเรียนรู้ การเรียนรู้ เป็นกระบวนการสำคัญ ในการดำรงชีวิตของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์เริ่มมีการเรียนรู้ตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งตาย แต่สำหรับการเรียนรู้ช่วยให้มนุษย์มีพัฒนาการที่แตกต่างไปจากสัตว์ ความหมายของการเรียนรู้ การเรียนรู้เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ที่เกิดจากประสบการณ์ที่ได้ศึกษา หรือ พบเจอ แล้วแสดงพฤติกรรมนั้นออกมา ประสบการณ์ทางตรง คือ ประสบการณ์ที่บุคคลได้พบ หรือสัมผัสด้วยตนเอง และในการมีประสบการณ์ตรงบางอย่างอาจจะทำให้บุคคลมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม แต่ไม่ถือว่าเป็นการเรียนรู้ ได้แก่ 1. พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากฤทธิ์ยา หรือสิ่งเสพติดบางอย่าง 2. พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากความเจ็บป่วยทางกายหรือทางใจ 3. พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากความเหนื่อยล้าของร่างกาย 4. พฤติกรรมที่เกิดจากปฏิกิริยาสะท้อนต่างๆ ประสบการณ์ทางอ้อม คือ ประสบการณ์ที่ผู้เรียนไม่ได้พบหรือสัมผัสด้วยตนเองโดยตรง แต่อาจได้รับประสบการณ์ทางอ้อมจาก การอบรมสั่งสอนหรือการบอกเล่า การอ่านหนังสือต่างๆ และการรับรู้จากสื่อมวลชนต่างๆ จุดมุ่งหมายของการเรียนรู้ พฤติกรรมการเรียนรู้ตามจุดมุ่งหมายของนักการศึกษาซึ่งกำหนดโดย บลูม และคณะ (Bloom and Others ) มุ่งพัฒนาผู้เรียนใน 3 ด้าน ดังนี้ 1.ด้านพุทธิพิสัย 2.ด้านเจตพิสัย 3.ด้านทักษะพิสัย องค์ประกอบสำคัญของการเรียนรู้ ดอลลาร์ด และมิลเลอร์ (Dallard and Miller) เสนอว่าการเรียนรู้ มีองค์ประกอบสำคัญ 4 ประการ คือ 1.แรงขับ (Drive) 2.สิ่งเร้า (Stimulus) 3.การตอบสนอง (Response) 4.การเสริมแรง (Reinforcement) ลำดับขั้นของการเรียนรู้ 1.ประสบการณ์ 2.ความเข้าใจ 3.ความนึกคิด การถ่ายโยงการเรียนรู้ การถ่ายโยงการเรียนรู้เกิดขึ้นได้ 2 ลักษณะ คือ การถ่ายโยงการเรียนรู้ทางบวก คือ การถ่ายโยงการเรียนรู้ชนิดที่ผลของการเรียนรู้งานหนึ่งช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อีกงานหนึ่งได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น หรือดีขึ้น การถ่ายโยงการเรียนรู้ทางลบ (Negative Transfer) คือการถ่ายโยงการเรียนรู้ชนิดที่ผลการเรียนรู้งานหนึ่งไปขัดขวางทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อีกงานหนึ่งได้ช้าลง หรือยากขึ้นและไม่ได้ดีเท่าที่ควร ธรรมชาติของการเรียนรู้ 1.การเรียนรู้เป็นกระบวนการ การเกิดการเรียนรู้ของบุคคลจะมีกระบวนการของการเรียนรู้จากการไม่รู้ไปสู่การเรียนรู้ 2.การเรียนรู้ไม่ใช่วุฒิภาวะแต่การเรียนรู้อาศัยวุฒิภาวะ 3.การเรียนรู้เกิดได้ง่าย ถ้าสิ่งที่เรียนเป็นสิ่งที่มีความหมายต่อผู้เรียน 4.การเรียนรู้แตกต่างกันตามตัวบุคคลและวิธีการในการเรียน ความสำคัญของจิตวิทยาการเรียนการสอน ทำให้รู้จักลักษณะนิสัยของผู้เรียน ความเข้าใจพัฒนาการบุคลิกภาพบางอย่างของผู้เรียน จึงทำ ให้ครูเข้าใจความแตกต่างระหว่างบุคคล ทราบถึงทฤษฎี หลักการเรียนรู้ รวมทั้งหลักการสอน ทฤษฎีสัมพันธ์เชื่อมโยงของธอร์นไดค์ " เขาเชื่อว่า "คนเราจะเลือกทำในสิ่งก่อให้เกิดความพึงพอใจและจะหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ไม่พึง พอใจ" กฎการเรียนรู้ของธอร์นไดค์ 1.กฎแห่งผล คือ ผลแห่งปฏิกิริยาตอบสนองใดที่เป็นที่น่าพอใจ อินทรีย์ย่อมกระทำปฏิกิริยานั้นซ้ำอีกและผลของปฏิกิริยาใดไม่เป็นที่พอใจบุคคลจะหลีกเลี่ยงไม่ทำปฏิกิริยานั้นซ้ำอีก 2.กฎแห่งความพร้อม มีใจความสำคัญ 3 ประเด็น คือ 2.1 ถ้าอินทรีย์พร้อมที่จะเรียนรู้แล้วได้เรียน อินทรีย์จะเกิดความพอใจ 2.2 ถ้าอินทรีย์พร้อมที่จะเรียนรู้แล้วไม่ได้เรียน จะเกิดความรำคาญใจ 2.3 ถ้าอินทรีย์ไม่พร้อมที่จะเรียนรู้แล้วถูกบังคับให้เรียน จะเกิดความรำคาญใจ 3.กฎแห่งการฝึกหัด คือ พฤติกรรมใดที่ได้มีโอกาสกระทำซ้ำบ่อยๆ และมีการปรับปรุงอยู่เสมอ ย่อมก่อให้เกิดความคล่องแคล่วชำนิชำนาญ สิ่งใดที่ทอดทิ้งไปนานย่อมกระทำได้ไม่ดีเหมือนเดิมหรืออาจทำให้ลืมได้ ทฤษฎีการเรียนรู้ ทฤษฎีการเรียนรู้มีอิทธิพลต่อการจัดการเรียนการสอนมาก เพราะจะเป็นแนวทางในการกำหนดปรัชญาการศึกษาและการจัดประสบการณ์ เนื่องจากทฤษฎีการเรียนรู้เป็นสิ่งที่อธิบายถึงกระบวนการ วิธีการและเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดการเรียนรู้และตรวจสอบว่าพฤติกรรมของมนุษย์ มีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร การนำหลักการมาประยุกต์ใช้ในการสอน 1.ครูสามารถนำหลักการเรียนรู้ของทฤษฎีนี้มาทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้เรียนที่แสดงออกถึงอารมณ์ ความรู้สึกทั้งด้านดีและไม่ดี รวมทั้งเจตคติต่อสิ่งแวดล้อมต่างๆ 2.ครูควรใช้หลักการเรียนรู้จากทฤษฎีปลูกฝังความรู้สึกและเจตคติที่ดีต่อเนื้อหาวิชา กิจกรรมนักเรียน ครูผู้สอนและสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้เกิดในตัวผู้เรียน 3.ครูสามารถป้องกันความรู้สึกล้มเหลว ผิดหวัง และวิตกกังวลของผู้เรียนได้ การปรับพฤติกรรมและการแต่งพฤติกรรม การปรับพฤติกรรม เป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ มาเป็นพฤติกรรมที่พึงประสงค์ โดยใช้หลักการเสริมแรงและการลงโทษ การแต่งพฤติกรรม เป็นการเสริมสร้างให้เกิดพฤติกรรมใหม่ โดยใช้วิธีการเสริมแรงกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งเกิดพฤติกรรมตามต้องการ บทเรียนสำเร็จรูป เป็นบทเรียนโปรแกรมที่นักการศึกษา หรือครูผู้สอนสร้างขึ้น ประกอบด้วย เนื้อหา กิจกรรม คำถามและ คำเฉลย การสร้างบทเรียนโปรแกรมใช้หลักของสกินเนอคือเมื่อผู้เรียนศึกษาเนื้อหาและทำกิจกรรม จบ 1 บท จะมีคำถามยั่วยุให้ทดสอบความรู้ความสามารถ แล้วมีคำเฉลยเป็นแรงเสริมให้อยากเรียนบทต่อๆ ไปอีก การนำความรู้ไปใช้ ก่อนที่ผู้เรียนจะเกิดความรู้ใหม่ ต้องแน่ใจก่อนว่า ผู้เรียนมีความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้อง กับความรู้ใหม่มาแล้ว และพยายามสอนให้ผู้เรียนเข้าใจจุดมุ่งหมายของการเรียน เพราะจะเกิดประโยชน์แก่ตนเองได้ ไม่ลงโทษผู้เรียนเร็วหรือช้ากว่าคนอื่นๆ ไม่มุ่งหวังว่าผู้เรียนจะต้องเกิดการเรียนรู้ที่ใช้เวลาเท่ากัน ในการสอนบทเรียนที่คล้ายกัน ต้องแน่ใจก่อนว่าผู้เรียนเข้าใจแล้ว จึงค่อยสอนบทต่อไป สุดท้าย ควรพยายามทำให้ผู้เรียนมองเห็นความสัมพันธ์ของบทเรียน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น